if (e.which == 3) { alert(message);return false; }}} if (document.layers) {document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); }document.onmousedown=click; // -->

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Save time 17 Tuesday Date 24 November 2015


Diary notes.


Knowledge.

การรายงานโทรทัศน์ครูของเพื่อนเลขที่  9
     
     นางสาวกรกช   เดชประเสริฐ เลขที่ 9
         โทรทัศน์ครู เรื่อง พัฒนาการสังเกตเป็นพื้นฐานสำคัญทางวิทยาศาสตร์
         โรงเรียนอนุบาล อุทัยธานี โดยครูปราณี   ศรีรักแก้ว
          สรุป  กิจกรรมที่ครูจัดให้เด็ก เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กทดลอง สังเกตจากการเปรียบเทียบสิ่งของ 2 ชนิด โดยครูจะกำหนดปัญหาคือตั้งคำถาม  จากนั้นให้เด็กสังเกตหรือเก็บรวบรวมข้อมูล และสรุปผลการทดลอง ซึ่งเด็กจะเกิดทักษะกระบวนการพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ 



การนำเสนอบทความของเพื่อนเลขที่ 22 6 5 และ 4


     นางสาวชนากานต์   พงษ์สิทธิศักดิ เลขที่ 22
         บทความ เรื่อง สอนลูกเรื่องอากาศ
         สรุป เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย เด็กมักจะมีคำถามอยู่เสมอ เมื่อเด็กมีความสนใจธรรมชาติรอบตัว คำถามที่ต้องการให้ผู้ใหญ่ตอบมีหลายเรื่อง รวมทั้งสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น คืออากาศ การสอนเรื่องอากาศสำหรับเด็กปฐมวัยมีความสำคัญ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต อยู่กับคนเราตลอดเวลา ครู และพ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรตระหนักถึงคูณค่า และนำไปจัดสาระที่ควรเรียนรู้ ที่จะนำไปใช้พัฒนาความรู้ ความคิด ให้เด็กเกิดความเข้าใจต่อธรรมชาติ โดยเริ่มให้เขาสังเกตจากความจริงในชีวิตประจำวัน ฝึกให้เข้าใจอย่างมีเหตุผลบนพื้นฐานการจัดกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
     
     นางสาวรัชดา   เทพเรียง เลขที่ 6
         บทความ เรื่อง หลักสูตรวิทยาศาตร์ปฐมวัยจำเป็นหรือไม่
         สรุป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  (สสวท.)  ได้ดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย โดยการเยี่ยมชมโรงเรียนปฐมวัยทุกสังกัดทั่วประเทศ ระหว่างปี พ.ศ.2548 – 2549  พบว่าครูปฐมวัยได้สอนวิทยาศาสตร์ในเชิงเนื้อหามากมาย โดยผ่านการบอกเล่า  มากกว่าที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ตามธรรมชาติของเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็น และมีความกระตือรือร้นที่ จะสำรวจตรวจสอบหาคำตอบเนื้อหาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ครูสอนถูกแนวคิด (concept) บ้างไม่ ถูกบ้าง การเรียนวิทยาศาสตร์ในชั้นปฐมวัยนั้น  ไม่ได้มุ่งเน้นให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับเนื้อหาแต่มุ่งเน้นให้เด็กเรียนรู้เรื่องกระบวนการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์  ซึ่งประกอบไปด้วยการ สังเกตสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว การตั้งคำถาม การหาวิธีที่จะตอบคำถาม โดยใช้ทักษะการสังเกตตามวัยของเด็ก  เมื่อเด็กได้พัฒนาทักษะในการสืบเสาะหาความรู้อย่างง่าย ๆ ตามวัยของเขา ก็จะทำให้เขามีครื่องมือสำคัญที่จะแก้ปัญหาในอนาคตของตัวเองได้ เพราะเด็กจะเรียนรู้การแก้ปัญหาอย่างมีเหตุมีผล และได้พัฒนาทักษะในการสังเกต เก็บรวบรวมข้อมูล สามารถที่จะเรียนรู้จากสิ่งรอบ ๆ ตัวได้ ถือว่าเป็นพื้นฐานสำหรับชีวิตของเด็ก ๆ ในการเรียนรู้ต่อไป”

     นางสาวเปมิกา   ชุติมาสวรรค์ เลขที่ 5
         บทความ เรื่อง วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
         สรุป วิทยาศาสตร์เป็นการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเรา ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ส่งผลให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้ดีขึ้นและมีความเข้าใจเกี่ยวกับการโภชนาการ ผลจากการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทำให้เรามีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบาย เช่นเราจะรู้สึกว่าไม่มีความสุขหากอากาศร้อนมากวิทยาศาสตร์ช่วยให้เรามีพัดลมหรือแอร์ เราได้รับความบันเทิงทางเทคโนโลยีเช่นทีวี วิทยุ เด็กเล็กๆมีธรรมชาติที่เป็นผู้ความอยากรู้อยากเห็น ชอบใช้คำถามว่า ทำไม อย่างไร
         การแสวงหาความรู้จากสิ่งต่างๆรอบตัวเขาและเริ่มเข้าใจสภาพแวดล้อมที่เขาอาศัยอยู่ เด็กสามารถสังเกตและสื่อสารเกี่ยวเรื่องดิน หิน อากาศและท้องฟ้า เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุ พลังงานจากแม่เหล็ก แสงและเสียง เด็กสามารถสำรวจลักษณะของน้ำและความร้อน สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กปฐมวัยเริ่มการทำงานทางวิทยาศาสตร์ เด็กสามารถแก้ปัญหาต่างๆโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการเรียนรู้เรื่องอื่นๆได้

     นางสาวชณาภา   คะปัญญา เลขที่ 4
          บทความ เรื่อง การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย
          สรุป การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ควรเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริงโดยมีครูเป็นผู้ตอบสนองความสนใจของเด็ก และส่งเสริมการจัดโครงสร้างความคิดจากประสบการณ์ เพื่อพัฒนามุมมองและความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ โดยมีหลักในการเลือกเนื้อหา 3 ประการ คือ ขอบเขตเนื้อหาวิทยาศาสตร์ พัฒนาการและความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก และสามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ นำไปจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการสืบเสาะหาความรู้และกระบวนการแก้ปัญหา ด้วยวิธีการที่หลากหลายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และควรให้เด็กตระหนักถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ต่อไปนี้
1. เราต้องการค้นหาอะไร
2. เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อการค้นหานี้
3. เราเห็นอะไรเกิดขึ้นบ่าง
4 สิ่งต่างๆ เหล่านี้บอกอะไรแก่เราบ้าง




การรายงานวิจัยของเพื่อนเลขที่  3 และ 2 


      นางสาวประภัสสร   คำบอนพิทักษ์ เลขที่ 3
           วิจัย เรื่อง การพัฒนากระบวนการวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัยโดยการใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้
           ผู้วิจัย ณัฐชุดา   สาครจริญ
           สรุป  การวิจัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาระดับการพัฒนาของทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์โดยใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ และเพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้รูปแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ ผ่านแผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ จำนวน 24 เรื่อง เช่น รถ ผักผลไม้ อาหาร เวลา เป็นต้น  และแบบการประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานสำหรบเด็กปฐมวัย ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การจัดประสบการณ์กิจกรรมรูปแบบศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ส่งผลให้เด็กปฐมวัยมีทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์สูงขึ้น
         
      นางสาวจงรักษ์   หลาวเหล็ก  เลขที่ 2
           วิจัย เรื่อง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน
            ผู้วิจัย สุมาลี   หมวดไธสง
            สรุป  การวิจัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาระดับความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน และเพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน ผ่านแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในกิจกรรมวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน และแบบทดสอบในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัย  คือ การจัดหมด และการหาความสัมพันธ์ ผลการวิจัยการทำกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นอกห้องเรียนส่งผลให้เด็กมีความกระตือรือร้น เรียนรู้ สำรวจค้นหาข้อมูลนอกห้องเรียนด้วยตนเอง เด็กมีความอยากรู้อยากเห็น ได้พบสิ่งแปลกใหม่และเรื่องราวที่น่าค้นคว้าจึงทำให้เด็กตื่นเต้น และอยากทำกิจกรรมซึ่งตอบสนองต่อธรรมชาติของเด็กปฐมวัย เนื่องจากลักษณะของการจัดกิจกรรมกระบวนการนอกห้องเรียนเด็กได้เรียนรู้ด้วยตนเองผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 เด็กสามารถ สัมผัสจับต้อง ดมกลิ่น ได้ยินโดยอยู่ในพื้นฐานของการปฏิบัตินอกห้องเรียน ทำให้นักเรียนได้รู้จักอนุรักษ์ธรรมชาติ และรู้จักหวงแหนสมบัติของโรงเรียนโดยไม่เด็ดดอกไม้ไม่รังแกสัตว์ที่พบเห็นและยังช่วย ดูแลธรรมชาติสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนให้สวยงามอยู่เสมอ


skills.
  
    1. skills ด้าน Technology
        1.1 การ Search Information จาก Internet
        1.2 การจัดทำแผนที่ความคิด My mapping สรุป Knowledge
    2. skills ด้านความคิด
        2.1 การแสดงความคิดอย่างอิสระ กล้าคิด และคิดเป็น
    3. skills การนำเสนอ
    


Teaching methods.
     
     อาจารย์มีการใช้คำถามกระตุ้นให้นักศึกษาคิด เปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็น และอธิบายเพิ่มเติมจากคำตอบของนักศึกษา



assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท มีอุณหภูมิพอเหมาะ เก้าอี้เพียงพอต่อจำนวนนักศึกษา

self. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง มีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น


friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Save time 16 Tuesday Date 20 November 2015


Diary notes.


Knowledge.

การศึกษานอกห้องเรียน


มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 
National Science and Technology Fair 2558


"มหกรรมกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2558" (National Science and Technologe Fair 2015) โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศษสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ภายใต้แนวคิด "จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรมณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองทานี




สะเต็มศึกษา
STEM Education

สะเต็มศึกษา คืออะไร
แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการความรู้ในสหวิทยาการได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยเน้น การนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน

จุดประสงค์
            ส่งเสริมให้ผู้เรียนรัก และเห็นคุณค่าของการเรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ และเห็นว่าวิชาเหล่านี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็ม
มีลักษณะ 5 ประการ ได้แก่
1. เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการบูรณาการความรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ากับกระบวนการทางวิศวกรรม
2. ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงเนื้อหาทั้ง 4 สาขาวิชากับชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพ
3. เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21
4. ท้าทายความคิดของนักเรียน
5. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และความเข้าใจที่สอดคล้องกันเนื้อหาทั้ง 4 วิชา


IPST LEARNING SPECE

ก้าวไปข้างหน้ากับ IPST Learning Spece "เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทษไทย"




IPST Learning Space 6 ระบบหลัก หลักสูตร สื่อ มีคุณภาพ ถูกต้อง ได้มาตรฐาน ครบถ้วน ทั้งการเรียนรู้ในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ได้แก่
1. ระบบโรงเรียน (School Module) สำหรับบริหารจัดการหลักสูตร แผนจัดการเรียนรู้และข้อสอบในโรงเรียน
2. ระบบอบรมครู (Teacher Training Module) แหล่งเรียนรู้ด้วยตัวเอง ที่ครูสามารถใช้พัฒนาศักยภาพด้านเนื้อหาและเทคนิคการสอน
3. ระบบการสอบออนไลน์ (Online Testing System) ครูสามารถจัดชุดข้อสอบให้นักเรียนทำ และนักเรียนก็สามารถจัดชุดข้อสอบตามหลักสูตร หรือตามความสนใจ เพื่อวัดระดับความรู้ตัวเอง และทราบผลสอบทันที พร้อมเฉลยคำตอบ
4. ระบบคลังสื่อดิจิทัล (Digital Media System) สนับสนุนให้นักเรียนและบุคคลทั่วไปเข้ามาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวเอง
5. ระบบสำนักพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Publishing) เป็นเครื่องมือง่ายๆ ที่ครูสามารถเรียนรู้เพื่อสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้วยตัวเองและแบ่งปันให้ผู้อื่นได้ด้วย
6. ระบบการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning) มีกระดานถาม - ตอบ ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายความร่วมมือแบ่งปัน และแลกเปลี่ยนความรู้อย่างสร้างสรรค์


สื่อการทดลอง เสมือนจริง
Virtual Experiment

จากสภาพการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ในปัจจุบัน พบว่า ปัญหาส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากการที่ผู้เรียนไม่ได้ทำการทดลองจริง โดยสาเหตุอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น มีทัศนคติทางลบต่อการเตรียมการทดลองที่ยุ่งมาก ขาดแคลนอุปกรณ์การทดลองหรือมีจำนวนไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้เรียน หรือมีเวลาเรียนไม่เพียงพอทำให้ผู้เรียนขาดทักษะกระบวนการที่จำเป็นต่อการเข้าใจวิชาฟิสิกส์ที่ถูกต้อง ดังนั้นทางสาขาฟิสิกส์ สสวท. จึงมีความคิดที่จะช่วยแก้ไข หรือลดปัญหาดังกล่าวด้วยการจัดทำสื่อที่มีชื่อว่า Virtual Experiment : VE.
โดย Virtual Experiment เป็นห้องปฏิบัติการเสมือน ที่สร้างโดยการนำเทคโนโลยีมัลติมีเดียมาสร้างจำลองห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการทำการทดลองได้เข้ามาใช้สื่อนี้ทำการทดลอง ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการทดลอง บันทึกผลการทดลอง การเรียนกราฟ ทักษะการตีความหมายข้อมูล และลงข้อสรุป อีกทั้งสื่อนี้ยังมีการประเมินผลการทำการทดลองของผู้เรียนด้วย

จุดเด่นของสื่อ VE. คือ
1. เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกระตุ้นความสนใจในการทำการทดลองแก่ผู้เรียนด้วยรูปแบบสื่อที่ทันสมัยเสริมสร้างทักษะศตวรรษที่ 21
2. ผู้เรียนมีโอกาสฝึกฝนทำการทดลองที่ใด เวลาใดก็ได้ จนเกิดทักษะ ความเข้าใจและความมั่นใจในการทดลอง
3. ผู้เรียนสามารถทบทวนและใช้กระบวนการการหาความรู้ด้วยตนเองจนกระทั่งมีความเข้าใจในเนื้อหาวิชา เนื่องจากผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับสื่อได้


บรรยากาสงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 


นิทรรศการวัฏจักรของสายน้ำ Water Pavilion
จัดแสดงนิทรรศการเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของ "น้ำ" ผ่านนิทรรศการที่ร้อยเรียงการนำเสนอจากจุดกำเนิดของน้ำที่ล่อเลี้ยงระบบนิเวศและมนุษย์ และปลูกฝังจิตสำนึกการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และการร่วมอนุรักษ์แหล่งน้ำ

นิทรรศการปีสากลแห่งแสง (UNESCO International Year of Light)
เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองปีสากลแห่งแสง ในแนวคิดแสงกับชีวิต (Light of Life) โดยสร้างนิทรรศการเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติและความสำคัญของแสง และเน้นกิจกรรมที่ได้ทดลองและเรียนรู้สำหรับกลุ่มเยาวชน  รวมถึงนำเสนอการอธิบายปรากฏการณ์ของแสงในธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา

นิทรรศการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก Climate Change
สร้างความตระหนักสู่กลุ่มเป้าหมายถึงวิกฤติการที่เกิดขึ้นจากผลของ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก” ในหลากหลายมุมมอง ผ่านชุดนิทรรศการที่เน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ โดยนำเสนอผ่านทางโรงภาพยนตร์ ที่นำเสนอภาพของการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ และเรียนรู้ไปอย่างกลมกลืน

                                          นิทรรศการจากหน่วยงานกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นิทรรศการและกิจกรรมแสดงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม จากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ



skills.
  
       การศึกษาดูงานนอกห้องเรียนช่วยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สังเกต สำรวจและศึกษาสิ่งที่ตนเองชอบได้อย่างอิสระ เป็นแนวทางที่ดีอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราผ่อนคลาย สบายใจในยอมที่เกิดความเครียดและยังช่วยให้เราปรับอารมณ์ตัวเอง จัดการกับปัญหาต่างๆ ที่อยู่รอบตัวได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เรามีความรับผิดชอบและรู้หน้าที่มากขึ้นกว่าเดิม และประการสำคัญในการศึกษานอกห้องเรียนทำให้เรากล้าที่จะเข้าร่วมกับสังคมมากยิ่งขึ้น



Teaching methods.
     
       อาจารย์มีการแนะนำ และให้นักศึกษาออกไปดูงานนอกสถานที่แล้วนำความรู้ที่ได้มาจัดทำเป็นเล่มเอกสาร และบันทึกลงบล็อกเพื่อถ่ายทอด และเผยแพร่ความรู้แก่ผู้อื่น


assessment.

classroom conditions. บรรยาการภายในงานมีความทันสมัย ยิ่งใหญ่ มีการจัดแบ่งเป็นนิทรรศการต่างๆ อย่างหลายหลายและน่าสนใจ เช่น นิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ  Royal Pavilion นิทรรศการปีดินสากล (International Year of Soils)  นิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพ นิทรรศการปีสากลแห่งแสง (UNESCO International Year of Light) นิทรรศการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก  นิทรรศการวัฏจักรของสายน้ำ  นิทรรศการ Digital Economy  นิทรรศการวิทยาศาสตร์ในของเล่นภูมิปัญญาพื้นบ้านแห่ง AEC นิทรรศการช้างไทย นิทรรศการเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านอาหาร  นิทรรศการจากหน่วยงานกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นิทรรศการต่างประเทศนิทรรศการจากหน่วยงานอื่นๆ 

self. การเข้าชมมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ การแต่งกายสุภาพ ปฏิบัติตนเป็นผู้ร่วมงานที่ดี ใฝ่ศึกษาและร่วมกิจกรรมกับบูทนิทรรศการต่างๆ

professor. พี่ๆ ผู้ดูแลนิทรรศการมีความเป็นกันเอง ให้คำแนะนำและอธิบายถึงเนื้อหา กิจกรรมด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย มีความรู้และเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีจากการพูดจาที่คล่องแคล่ว ฉะฉาน มีความสุภาพ อ่อนน้อม และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่น
Save time 15 Tuesday Date 17 November 2015


Diary notes.


Knowledge.

กิจกรรม Cooking
การทำ Cooking ข้าวจี่ ขนมโค และหวานใจ

Cooking ข้าวจี





ข้าวจี่เป็นขนมพื้นบ้านของภาคอีสาน ทำจากข้าวเหนี่ยวนึ่งทาเกลือ ปั้นเป็นทรงกลมหรือรีเสียบไม้นำไปย่างบนเตาไฟ พอเกรียมนำมาชุบไข่ แล้วนำไปย่างใหม่จนเหลือง
    
   





  อุปกรณ์


1. ข้าวเหนียวนึ่ง
2. ไก่หยอง
3. ไข่ไก่
4. เตาย่าง
5. ตะเกียบ ช้อน


       ขั้นตอนการทำ




























กิจกรรม Cooking ขนมโค







ขนมโคเป็นขนมพื้นบ้านของชาวปักษ์ใต้ คล้ายขนมต้มขาวของคนภาคกลาง ขนมโคจัดเป็นของว่างในหมวดของหวาน จะปั้นเป็นทรงกลมและใส่ไส้ข้างในแล้วนำไปต้ม จากนั้นคลุกด้วยมะพร้าวขูดฝอย






   อุปกรณ์


1. แป้งข้าวเหนียว
2. น้ำสะอาด
3. ไส้หน้าต่างๆ
4. มะพร้าวขูดฝอย
5. สีผสมอาหาร
6. หม้อต้ม

       วิธีการทำ



































กิจกรรม Cooking หวานเย็น

     อุปกรณ์



1. น้ำแข็ง
2. เกลือ
3. น้ำสะอาด
4. น้ำหวาน
5. ถ้วยสแตนเลส ทัพพีไม้ กะละมัง


       วิธีการทำ





skills.
  
       การเรียนด้วยการลงมือทำ หรือการปฏิบัติจริงทำให้เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 7 ทักษะ เกิดทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ด้วยการทำงานเป็นกลุ่ม ทักษะการแก้ปัญหา และกระบวนการทางวิทยาศษสตร์ คือ การกำหนดปัญหา ตั้งสมมติฐาน เก็บรวบรวมข้อมูล และสรุปผลจากกิจกรรม Cooking



การรายงานโทรทัศน์ครูของเพื่อนเลขที่ 7
     
     นางสาวกมลรัตน์   มาลัย เลขที่ 7
         โทรทัศน์ครู เรื่อง ดินน้ำมันลอยน้ำได้อย่างไร
         โรงเรียนอนุบาล อุทัยธานี โดยครูปราณี   ศรีรักแก้ว
         สรุป  กิจกรรมที่ครูจัดให้เด็ก เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เล่น ทดลอง ลงมือทำด้วยตนเอง โดยมีครูคอยช่วยเหลือ ซึ่งเด็กจะได้ทักษะการสังเกต สี รูปทรงของดินน้ำมัน และออกแบบจากการตั้งสมมติฐานและการคาดเดาจากประสบการณ์เดิม



Teaching methods.
     
     อาจารย์มีการสาธิตวิธีการทำ แนะนำเทคนิควิธีการสอนด้วยกิจกรรม Cooking และร่มทำกิจกรรมกับนักศึกษา



assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท มีสิ่งอำนวยความสะดวก

self. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง มีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น
Save time 14 Tuesday Date 10 November 2015


Diary notes.


Knowledge.

กิจกรรม Cooking
การทำ Cooking วาฟเฟิล และทาโกยากิ

Cooking วาฟเฟิล(Waffle)






วาฟเฟิลเป็นอาหารที่ต้องทำให้สุกก่อนรับประทาน การทานนั้นทำได้ทั้งอาหารเช้า อาหารคาวหรืออาหารหวานก็ได้ และมีหลายรูปแบบทั้งทรงสี่เหลี่ยม วงกลมและสามเหลี่ยม

   อุปกรณ์


1. แป้งวาฟเฟิลสำเร็จรูป
2. ไข่ไก่
3. น้ำสะอาด
4. เนย
5. เตาอบวาฟเฟิล
6. ถ้วยผสมแป้ง ทัพพี ที่ตีแป้ง แปรงทาเนย จาน และถ้วยขนาดเล็ก
7. ท็อปปิ้ง เช่น ข้าวโพด ท็อปปิ้งรสช็อคโกแลต รสสตรอเบอร์รี่ คอปป และไอศกรีม เป็นต้น


       ขั้นตอนการทำ





Cooking ทาโกยากิ(Takoyaki)







ทาโกยากิเป็นอาหารว่าง ทรงกลมที่ถูกปรุงขึ้นโดยแป้งในน้ำซุป และนำไปทำให้สุก โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ






    อุปกรณ์


1. ข้าวหุงสุก
2. ไข่ไก่
3. ปูอัด
4. ต้นหอม
5. ซอสปรุงรส
6. เนย
7. กระทะทอดทาโกยากิ
8. ถ้วย มีด เคียง ตะเกียบ ช้อน
9. ท็อปปิ้ง เช่นสาหร่ายแผ่น มายองเนส เป็นต้น

       วิธีการทำ


































skills.
  
       การเรียนด้วยการลงมือทำ หรือการปฏิบัติจริงทำให้เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 7 ทักษะ เกิดทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ด้วยการทำงานเป็นกลุ่ม ทักษะการแก้ปัญหา และกระบวนการทางวิทยาศษสตร์ คือ การกำหนดปัญหา ตั้งสมมติฐาน เก็บรวบรวมข้อมูล และสรุปผลจากกิจกรรม Cooking



Teaching methods.
     
     อาจารย์มีการสาธิตวิธีการทำ แนะนำเทคนิควิธีการสอนด้วยกิจกรรม Cooking และร่มทำกิจกรรมกับนักศึกษา



assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท มีสิ่งอำนวยความสะดวก

self. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง มีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Save time 13 Tuesday Date 03 November 2015


Diary notes.


Knowledge.


         อาจารย์ให้ทุกกลุ่มนำชาร์ท Mind Mapping แผนกิจกรรมทดลอง และแผน Cooking มาจัดแสดง เพื่อศึกษา และตรวจสอบความถูกต้องพร้อมให้ข้อเสนอแนะ
              1. ให้นักศึกษาตรวจสอบของกลุ่มอื่น และเขียนส่วนที่ต้องปรับปรุง แก้ไขลงชาร์ท
              2. อาจารย์ตรวจสอบความถูกต้อง ทีละกลุ่มและบอกข้อปรับปรุง แก้ไข

     


ภาพบรรยากาสในห้องเรียน

ตารางแสดงการทดลอง และกิจกรรม Cooking ของแต่ละกลุ่ม



สิ่งที่ควรปรับปรุง แก้ไข
หน่วย : ต้นไม้แสนรัก 
         
      Mind Mapping

Mind Mapping
- ส่วนประกอบของต้นไม้ควรอยู่ในลักษณะ
- ลักษณะของต้นไม้ ควรเพิ่มรสชาติ ขม ฝาด เฝือน หวาน และเพิ่มกลิ่น หอม เหม็น ไม่มีกลิ่น
- เพิ่มการขยายพันธุ์ต้นไม้


      แผนกิจกรรมการทดลอง

            การทดลอง "สนุกกับสีจากดอกไม้" เป็นการทดลองที่ให้เด็กเรียนรู้สีจากดอกไม้ชนิดต่างๆ โดยการขยี้ เช่น สีแดง ได้จากดอกชบา สีเหลือง ได้จากดอกดาวเรือง  สีม่วง-สีน้ำเงิน ได้จากดอกอัญชัน แต่เนื่องจากดอกชบา และดอกดาวเรืองเมื่อขยี้แล้วเป็นสีน้ำตาล ไม่ตรงกับสีที่กำหนดไว้ จึงเปลี่ยนกิจกรรมเป็น การทดลอง "สีจากธรรมชาติ"

แผนกิจกรรม สีจากธรรมชาติ

- วัตถุประสงค์ 
   1. เด็กอธิบายได้ว่าพืชแต่ละชนิดมีสีที่แตกต่างกัน
   2. เด็กอธิบายและทดลองตามลำดับขั้นตอนได้
- สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา)
   1. พืชแต่ละชนิดมีสีที่แตกต่างกัน เช่น ใบเตย มีสีเขียว ขมิ้น มีสีเหลือง มะเขือเทศ มีสีแดง และอัญชัน มีสีม่วง-น้ำเงิน

     
      แผน Cooking

แผน พิซซ่า

เปลี่ยนกิจกรรม Cooking พิซซ่าเป็นกิจกรรม Cooking วาฟเฟิล

แผน วาฟเฟิล


skills.
  
    1. skills ด้าน Technology
        1.1 การ Search Information จาก Internet
        1.2 การจัดทำแผนที่ความคิด My mapping สรุป Knowledge
    2. skills ด้านความคิด
        2.1 การแสดงความคิดอย่างอิสระ กล้าคิด และคิดเป็น
    3. skills การนำเสนอ
    
    
         
Teaching methods.
     
     อาจารย์มีการใช้คำถามกระตุ้นให้นักศึกษาคิด เปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็น และอธิบายเพิ่มเติมจากคำตอบของนักศึกษา



assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท มีอุณหภูมิพอเหมาะ เก้าอี้เพียงพอต่อจำนวนนักศึกษา

self. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง มีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น